เตรียมความพร้อมสู่ คะแนน TOEFL เรียนต่อต่างประเทศ
คะแนน TOEFL คืออะไร?
TOEFL หมายถึง “Test of English as a Foreign Language” ซึ่งเป็นการทดสอบที่ใช้ในการวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เป็นภาษาที่สองหรือเป็นภาษาต่างประเทศ คะแนน TOEFL ช่วยให้มหาวิทยาลัยต่างประเทศตรวจสอบความสามารถในการอ่าน, ฟัง, พูด, และเขียนภาษาอังกฤษของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาและสื่อสารในสถานการณ์การเรียนและการทำงานในต่างประเทศ.
TOEFL สอบอะไรบ้าง?
การสอบ TOEFL จะมีส่วนประกอบทั้งหมดมี 4 ส่วนหลักคือ
- Reading (การอ่าน): ทดสอบความเข้าใจในการอ่านและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา
- Listening (การฟัง): ทดสอบความสามารถในการฟังและตอบคำถามเกี่ยวกับเสียงพูด
- Speaking (การพูด): ทดสอบความสามารถในการพูดเกี่ยวกับเรื่องที่กำหนด
- Writing (การเขียน): ทดสอบความสามารถในการเขียนเรียงความเกี่ยวกับเรื่องที่กำหนด
คะแนน TOEFL ITP ควรได้เท่าไหร่
คะแนน TOEFL ITP ที่ควรได้นั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความต้องการของคุณ แต่ทั่วไปแล้วคะแนน TOEFL ITP มักถูกใช้ในความต้องการทางการศึกษาหรือการทำงานที่ไม่ต้องการระดับความยากสูงมาก เช่นการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือการสมัครงานที่ไม่ต้องการทักษะภาษาอังกฤษที่มากมาย
ดังนั้นคะแนนที่ถือว่าดีจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณแต่ละคน แต่ในกรณีทั่วๆ ไป คะแนน TOEFL ITP ที่เรียบร้อยคือประมาณ 500-600 คะแนน ซึ่งแบ่งเป็นระดับดังนี้:
- คะแนนน้อยกว่า 400: อาจต้องพัฒนาทักษะภาษาเพิ่มเติม
- 400-499: คะแนนพอใช้แต่อาจต้องปรับปรุงเพิ่มเติม
- 500-599: คะแนนดี สามารถใช้ในสถานการณ์ทางการศึกษาหรือการทำงานได้
- 600 ขึ้นไป: คะแนนดีมาก สามารถใช้ในการสมัครงานหรือเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยดีๆ ได้
อย่างไรก็ตาม, ควรติดต่อสถาบันหรือองค์กรที่คุณสนใจเพื่อทราบความต้องการของพวกเขาเพิ่มเติมเพราะบางที่อาจมีความต้องการสำหรับคะแนน TOEFL ITP ที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถาบันหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
มหาวิทยาลัยที่รับนักเรียนต่างประเทศ มหาวิทยาลัยในต่างประเทศมีนโยบายรับ คะแนน TOEFL ที่แตกต่างกันไป ทั้ง ปริญญาตรี และ ปริญญาโท คุณสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่สนใจและตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคะแนนที่ต้องการในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยนั้น ๆ จากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเป้าหมายของคุณ แต่โดยทั่วไปแล้วคะแนน TOEFL ที่ยอมรับอย่างน้อยคือประมาณ 80-100 คะแนน แต่บางโปรแกรมและมหาวิทยาลัยที่เราอาจจำเป็นต้องใช้คะแนนที่สูงกว่านี้
“นอกจากนี้สิ่งที่ต้องรู้คือการเตรียมตัวสอบว่าการสอบ TOEFL ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย”
การเตรียมตัวสอบ TOEFL
การเตรียมตัวสอบ TOEFL อย่างถูกวิธีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับและแนวทางการเตรียมตัวสอบ TOEFL เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้คะแนนสูง
- รู้จักโครงสร้างข้อสอบ: อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การสอบ TOEFL ประกอบด้วยส่วนการอ่าน (Reading), การฟัง (Listening), การพูด (Speaking), และการเขียน (Writing) หากคุณทราบแนวทางและโครงสร้างของสอบจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้หนังสือและสื่อการเรียนรู้: มีหลายหนังสือและคอร์สออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อการเตรียมสอบ TOEFL ใช้สื่อเหล่านี้เพื่อฝึกทักษะแต่ละด้านของการสอบ TOEFL อย่างสม่ำเสมอ บางคอร์สแม้จะมีค่าใช้จ่าย แต่มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตของคุณ
- ฝึกอ่านและฟังอย่างสม่ำเสมอ: การอ่านหนังสือ, บทความ, และฟังเสียงพูดในภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาทักษะการอ่านและการฟังของคุณ
- ฝึกการพูดและเขียน: ไม่เพียงแต่ต้องเข้าใจภาษาอังกฤษ เรายังต้องสามารถแสดงความคิดเห็นและความเข้าใจของเราในรูปแบบการพูดและเขียน ฝึกการสร้างประโยคและคำพูดของคุณอย่างสม่ำเสมอ
- ทำแบบทดสอบตัวอย่าง: คุณสามารถดาวน์โหลดและทำแบบทดสอบตัวอย่าง TOEFL จากเว็บไซต์ทางการหรือจากหนังสือเตรียมสอบ TOEFL นอกจากนี้ยังมีแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่จัดเตรียมแบบทดสอบฟรี ๆ ให้คุณฝึกกับคำถามจริง ๆ
- เซ็ตเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับคะแนน TOEFL ที่คุณต้องการและสร้างแผนการเตรียมตัวเพื่อให้คุณประสบความสำเร็จ
- ฝึกทักษะการจัดเวลา: TOEFL มีข้อสอบที่เวลาถาวร คุณจะต้องฝึกการจัดเวลาเพื่อที่จะสามารถทำข้อสอบให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด
- ทบทวนและปรับปรุง: หลังจากที่ทำแบบทดสอบตัวอย่างหลายรอบ ให้ทบทวนคำผิดและข้อผิดพลาดที่คุณทำและพยายามปรับปรุงในครั้งถัดไป
การเตรียมตัวสอบ TOEFL ต้องใช้เวลาและความพยายามแต่มันจะคุ้มค่า เมื่อคุณสามารถสอบผ่าน TOEFL ด้วยคะแนนที่ดี จะช่วยให้มีโอกาสในการเรียนต่อหรือทำงานในสถานการณ์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่และสบายใจมากขึ้นในการสื่อสารกับคนอื่นๆ ซึ่งสำหรับใครที่สนใจจะเรียนต่อแนะนำให้เรียนกับทาง International University of Applied Sciences (IU) เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่รองรับอย่างสากลและใช้คะแนน TOEFL เพียง 80 คะแนน ก็สามารถเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจและทำให้สามรรถเรียนอย่างมีคุณภาพไม่แพ้มหาลัยอื่นๆ