ตำแหน่ง BA กับ SA ต่างกันอย่างไร?

ในยุคที่เทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานในองค์กรที่มีการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งสำคัญมาก ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์และการออกแบบระบบนั้นมีบทบาทสำคัญในการทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

บทความนี้จะวิเคราะห์ตำแหน่งงานสองตำแหน่งที่มักจะถูกพูดถึงบ่อย ๆ ในวงการธุรกิจและไอที คือ Business Analyst (BA) และ System Analyst (SA) เป็นสองตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงระบบขององค์กร แม้ว่าทั้งสองตำแหน่งนี้จะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์และการแก้ปัญหา แต่มีหน้าที่และมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน BA มุ่งเน้นที่การวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ ในขณะที่ SA มุ่งเน้นที่การออกแบบและวิเคราะห์ระบบทางเทคนิค สำหรับผู้ที่สนใจเข้าสู่วงการนี้ การเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ธุรกิจ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และทักษะการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ โดยจะเน้นที่ความแตกต่างของบทบาทและหน้าที่ รวมถึงทักษะที่จำเป็นสำหรับแต่ละตำแหน่งงาน เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจในสายงานนี้สามารถเข้าใจและเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับตนเองได้

BA คือตำแหน่งอะไร

ตําแหน่ง BA ย่อมาจาก Business Analyst คือผู้เชี่ยวชาญที่มีหน้าที่หลักในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจความต้องการทางธุรกิจขององค์กร BA ทำงานเพื่อค้นหาวิธีการที่เหมาะสมในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และนำเสนอการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เพื่อให้ธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หน้าที่หลักของ Business Analyst

1. การเก็บรวบรวมความต้องการ (Requirements Gathering) : BA ทำงานร่วมกับผู้ใช้หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการทางธุรกิจและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
2. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements Analysis) : หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูลแล้ว BA จะวิเคราะห์ความต้องการเหล่านั้นเพื่อเข้าใจรายละเอียดและความซับซ้อนของปัญหา
3. การทำงานร่วมกับทีมพัฒนา: BA สื่อสารกับทีมพัฒนาเพื่อให้เข้าใจความต้องการทางธุรกิจและนำไปพัฒนาระบบหรือวิธีการแก้ไขปัญหาที่ตอบสนองความต้องการเหล่านั้น
4. การสร้างเอกสาร (Documentation) : BA จัดทำเอกสารที่สรุปความต้องการและการแก้ไขปัญหา รวมถึงแผนการทำงานและแผนการทดสอบ
5. การทดสอบและตรวจสอบ (Testing and Validation) : BA ทำงานร่วมกับทีมพัฒนาและผู้ใช้ในการทดสอบระบบหรือกระบวนการใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Business Analyst

  • ทักษะการวิเคราะห์ (Analytical Skills) : BA ต้องสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและปัญหาได้อย่างเป็นระบบและชัดเจน
  • ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) : การสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและทีมพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญ
  • ความเข้าใจในธุรกิจ (Business Understanding) : BA ต้องมีความเข้าใจในกระบวนการทางธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ทำงานอยู่
  • ทักษะการแก้ปัญหา (Problem-Solving Skills) : ความสามารถในการคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาและปรับปรุงกระบวนการทำงาน

BA เป็นสะพานเชื่อมระหว่างธุรกิจและทีมพัฒนา ทำหน้าที่ในการแปลงความต้องการทางธุรกิจให้เป็นข้อกำหนดที่ชัดเจนและสามารถนำไปปฏิบัติได้ ด้วยการทำงานที่รอบคอบและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ BA ช่วยให้การดำเนินงานขององค์กรเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

SA คือตำแหน่งอะไร

SA ย่อมาจาก System Analyst คือผู้เชี่ยวชาญที่มีหน้าที่ในการวิเคราะห์ ออกแบบ และปรับปรุงระบบสารสนเทศในองค์กร SA มีบทบาทสำคัญในการทำให้ระบบสารสนเทศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของธุรกิจ

หน้าที่หลักของ System Analyst

1. การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) : SA ทำการวิเคราะห์ระบบปัจจุบันเพื่อหาจุดอ่อนหรือปัญหาที่ต้องการแก้ไข และตรวจสอบความต้องการทางเทคนิคและธุรกิจของระบบใหม่
2. การออกแบบระบบ (System Design) : หลังจากการวิเคราะห์ SA จะออกแบบระบบใหม่หรือปรับปรุงระบบเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูลและการทำงานของระบบ
3. การจัดทำเอกสาร (Documentation) : SA จัดทำเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบระบบและขั้นตอนการทำงานของระบบ เพื่อให้ทีมพัฒนาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การทำงานร่วมกับทีมพัฒนา : SA ทำงานร่วมกับโปรแกรมเมอร์และวิศวกรระบบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบที่พัฒนาขึ้นนั้นตอบสนองความต้องการทางธุรกิจและสามารถทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้
5. การทดสอบระบบ (System Testing) : SA ทำการทดสอบระบบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้องและไม่มีข้อผิดพลาด รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่พบในกระบวนการทดสอบ

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ System Analyst

  • ทักษะการวิเคราะห์ (Analytical Skills) : SA ต้องสามารถวิเคราะห์และประเมินระบบสารสนเทศได้อย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพ
  • ทักษะการออกแบบ (Design Skills) : การออกแบบระบบและโครงสร้างข้อมูลเป็นทักษะสำคัญที่ SA ต้องมี
  • ความเข้าใจในเทคโนโลยี (Technical Understanding) : SA ต้องมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการเขียนโปรแกรม
  • ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) : การสื่อสารที่ดีระหว่างทีมพัฒนาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสิ่งสำคัญ
  • ทักษะการแก้ปัญหา (Problem-Solving Skills) : SA ต้องสามารถคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SA มีบทบาทสำคัญในการทำให้ระบบสารสนเทศขององค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการวิเคราะห์และออกแบบระบบที่ตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจ การทำงานของ SA ช่วยให้การพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ ส่งผลให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตำแหน่ง BA กับ SA เป็นคนเดียวกันได้

ตำแหน่ง Business Analyst (BA) และ System Analyst (SA) สามารถเป็นคนเดียวกันได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและโครงสร้างขององค์กร รวมถึงความสามารถและประสบการณ์ของบุคคลนั้นๆ ในองค์กรขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด การรวมบทบาทของ BA และ SA อาจเป็นไปได้เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในขณะที่ในองค์กรขนาดใหญ่ บทบาทเหล่านี้อาจถูกแยกออกจากกันเพื่อให้มีการทำงานที่เฉพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

BA มีหน้าที่ในการวิเคราะห์ความต้องการทางธุรกิจและการจัดการข้อกำหนดของโครงการ ในขณะที่ SA จะมุ่งเน้นที่การออกแบบและวิเคราะห์ระบบทางเทคนิค การรวมบทบาทนี้อาจมีข้อดี เช่น ความเข้าใจที่ชัดเจนในทั้งสองด้าน แต่ก็อาจมีข้อเสีย เช่น การรับผิดชอบงานที่มากเกินไป

อยากทำงาน Business Analytics ต้องจบอะไร

1. Data Science : สาขานี้เป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาดแรงงาน เนื่องจากมีการใช้ข้อมูลในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
2. Computer Science : สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยีและการพัฒนาซอฟต์แวร์ สาขานี้จะช่วยให้คุณมีทักษะในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ
3. Finance : สำหรับผู้ที่สนใจการจัดการการเงินและการวิเคราะห์การลงทุน สาขานี้จะช่วยพัฒนาทักษะในการจัดการและการวิเคราะห์ทางการเงิน
4. Marketing : สำหรับผู้ที่สนใจการตลาดและการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด สาขานี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและการวางแผนการตลาด
5. Healthcare Management : สำหรับผู้ที่สนใจการบริหารจัดการในภาคสาธารณสุข สาขานี้จะช่วยให้คุณเข้าใจระบบสุขภาพและการจัดการทรัพยากรทางการแพทย์

อยากทำงาน System Analyst ต้องจบอะไร

1. Information Systems : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกแบบ พัฒนา และ ดูแลรักษาระบบไอที หลักสูตรนี้จะสอนเกี่ยวกับ การเขียนโปรแกรม ฐานข้อมูล เครือข่าย และ ความปลอดภัยทางไซเบอร์
2. Software Engineering : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ออกแบบ พัฒนา ทดสอบ และ ดูแลรักษาระบบซอฟต์แวร์ หลักสูตรนี้จะสอนเกี่ยวกับ การเขียนโปรแกรม สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ และ การจัดการโครงการ
3. Computer Science : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เขียนโปรแกรม พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ และ ออกแบบอัลกอริทึม หลักสูตรนี้จะสอนเกี่ยวกับ โครงสร้างข้อมูล อัลกอริทึม ระบบปฏิบัติการ และ ทฤษฎีการคำนวณ
4. Data Science : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ วิเคราะห์ข้อมูล สร้างโมเดล และ แก้ปัญหา หลักสูตรนี้จะสอนเกี่ยวกับ สถิติ การเรียนรู้ของเครื่อง การเขียนโปรแกรม และ การวิเคราะห์ข้อมูล

การเรียนปริญญาโทด้าน Business Analytics หรือ System Analyst  เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจในสายงานวิเคราะห์ธุรกิจและต้องการพัฒนาทักษะและความรู้ในด้านนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หลักสูตรนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แชร์บทความนี้

บทความอื่นที่น่าสนใจ

รวมโรงเรียนนานาชาติในไทยที่เปิดสอนหลักสูตร IB พร้อมแนะนำโรงเรียน 

ค้นหาโรงเรียนนานาชาติในไทยที่เปิดสอนหลักสูตร IB (International Baccalaureate) พร้อมข้อมูลหลักสูตรและแนะนำโรงเรียนนานาชาติออนไลน์ King’s InterHigh
Read More

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศกับ EtonHouse ที่ญี่ปุ่น พัฒนาทักษะครบทุกด้าน 

เรียนซัมเมอร์ต่างประเทศกับ EtonHouse ที่ญี่ปุ่น เด็กๆ อายุ 3 ขวบขึ้นไปได้สนุกกับกิจกรรมสร้างสรรค์ เรียนรู้ธรรมชาติ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในบรรยากาศปลอดภัย พ่อแม่เที่ยวญี่ปุ่นได้สบายใจ
Read More

เมื่อลูกขอทำ Homeschool IGCSE เสี่ยงเกินไปไหม? เคลียร์ทุกคำถามผู้ปกครอง 

ไขข้อสงสัยเมื่อเด็กขอออกจากระบบการศึกษาไทยมาเรียน Homeschool IGCSE เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในอังกฤษ แนะนำ King’s InterHigh ตัวช่วยเรียน Homeschool ที่ได้มาตรฐาน
Read More

หลักสูตรไหนดี? EP หรือ หลักสูตรนานาชาติ เลือกแบบไหนที่เหมาะสมกับลูกคุณ 

กำลังตัดสินใจเลือกหลักสูตรให้ลูกเรียน? มาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างหลักสูตร EP และหลักสูตรนานาชาติ พร้อมข้อดีข้อเสีย เพื่อเลือกหลักสูตรที่ดีที่สุดให้กับอนาคตของลูกคุณ
Read More

MBA Online vs MBA On-Campus เปรียบเทียบหลักสูตรเพื่อการตัดสินใจ 

เลือกหลักสูตร MBA ที่เหมาะกับคุณ! เปรียบเทียบระหว่าง MBA Online และ MBA On-Campus ครบทุกมิติ ทั้งความยืดหยุ่น ค่าใช้จ่าย และโอกาสในการสร้างเครือข่าย
Read More

5 สิ่งที่ต้องเตรียม ก่อนเริ่ม Homeschool & เรียนทางไกล 

เตรียมตัวให้พร้อมกับ 5 สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องรู้ก่อนเริ่ม Homeschool และการเรียนทางไกล เพื่อสร้างการศึกษาที่บ้านให้มีคุณภาพและเหมาะสมสำหรับเด็ก
Read More

This will close in 0 seconds