ลูกของคุณเผชิญกับอะไรอยู่? วิธีรับมือกับปัญหาลูกไม่อยากไปโรงเรียน

โรงเรียนเป็นสถานที่ที่เด็กๆ ใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ แต่บางครั้งลูกของเราอาจต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างที่เราอาจไม่รู้หรือมองข้ามไป ปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ ความสุข และพัฒนาการของลูก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การเข้าสังคม ความเครียด สุขภาพ หรือแม้กระทั่งปัญหากับครูและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ ลูกไม่อยากไม่โรงเรียน  การทำความเข้าใจปัญหาเหล่านี้และหาทางแก้ไขเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกของเรามีประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีและเติบโตอย่างสมบูรณ์ มาสำรวจและหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ลูกของคุณอาจเผชิญอยู่ในโรงเรียนไปพร้อมกันเถอะ

เหตุผลที่ทำให้ ลูกไม่อยากไปโรงเรียน

หลายบ้านอาจพบกันปัญหาที่ ลูกไม่อยากไม่โรงเรียน ซึ่งมีหลายปัจจัย ที่ให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่ง ผู้ปกครองอยู่ที่บ้านอาจจะไม่เข้าใจในจุดนี้ เราลองมาดูกันว่า มีปัญหาอะไรบ้างที่ลูกของคุณเผชิญตอนอยู่โรงเรียน

1. การเรียน

  • ความสามารถทางสติปัญญา: เด็กแต่ละคนมีความสามารถทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน บางคนอาจเรียนรู้ได้เร็วกว่า บางคนอาจเรียนรู้ได้ช้ากว่า เด็กที่เรียนรู้ช้ากว่าอาจมีปัญหาในการเข้าใจบทเรียนใหม่ๆ และตามเพื่อนไม่ทัน
  • ความบกพร่องทางการเรียนรู้: เด็กบางคนอาจมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เช่น ดิสเล็กเซีย หรือ สมาธิสั้น สิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ อ่าน เขียน และทำความเข้าใจข้อมูล
  • ปัญหาทางอารมณ์และสังคม: เด็กที่ประสบกับปัญหาทางอารมณ์และสังคม เช่น ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือถูกกลั่นแกล้ง อาจมีปัญหาในการจดจ่อกับการเรียนและทำการบ้าน
  • ปัญหาครอบครัว: เด็กที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีปัญหา เช่น พ่อแม่ทะเลาะกัน หรือ พ่อแม่ติดสารเสพติด อาจมีปัญหาในการเรียนและทำการบ้าน
  • สภาพแวดล้อมการเรียน: เด็กที่เรียนในโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียน เช่น ห้องเรียนแออัด หรือ มีเสียงดัง อาจมีปัญหาในการเรียนและทำการบ้าน
  • วิธีการสอน: วิธีการสอนของครูบางคนอาจไม่เหมาะสมกับเด็กบางกลุ่ม ทำให้เด็กไม่เข้าใจบทเรียนและตามเพื่อนไม่ทัน
  • การบ้าน: การบ้านที่มากเกินไปหรือยากเกินไป อาจทำให้เด็กท้อแท้และไม่อยากทำการบ้าน

2. เพื่อน

  • ปัจจัยจากตัวเด็ก โดยเด็กที่มีลักษณะแตกต่างจากเด็กทั่วไป เช่น รูปร่างหน้าตา ฐานะทางครอบครัว หรือ ความสามารถพิเศษ หรือเด็กที่ไม่มีทักษะทางสังคมที่ดี เช่น ไม่รู้จักวิธีการสื่อสาร หรือ ไม่รู้จักวิธีการแก้ปัญหา อาจถูกเพื่อนแกล้ง และเด็กที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะซึมเศร้า โรควิตกกังวล สมาธิสั้น ซึ่งมีผลต่อการเข้าสังคมกับลูก ทำให้ลูกเข้ากับเพื่อนๆได้ยาก
  • ปัจจัยจากเพื่อน  เพื่อนอาจเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบใช้อำนาจ หรือ ชอบรังแกผู้อื่น ปัญหาครอบครัวของเพื่อน พ่อแม่ทะเลาะกัน หรือ พ่อแม่ติดสารเสพติด ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าวและแกล้งเด็กอื่น รวมถึงอิทธิพลจากกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในกลุ่ม ทำให้เพื่อนมีพฤติกรรมชอบแกล้งผู้อื่น อาจถูกชักจูงให้แกล้งเด็กอื่นได้

3. ครู

  • วิธีการสอน: การที่ครูใช้วิธีการสอนที่ไม่เหมาะสมหรือไม่เข้าใจนักเรียนแต่ละคน อาจทำให้นักเรียนไม่เข้าใจบทเรียน
  • การปฏิบัติต่อนักเรียน: ความไม่ยุติธรรมหรือการลำเอียงต่อนักเรียนบางคนอาจทำให้นักเรียนรู้สึกไม่ดี
  • การสื่อสาร: การสื่อสารที่ไม่ชัดเจนหรือไม่เข้าใจระหว่างครูกับนักเรียนอาจทำให้เกิดความสับสนและปัญหา
  • ครูไม่ Coching : เด็กอาจรู้สึกว่าครูไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความช่วยเหลือ หรือ ไม่สนับสนุน
  • การจัดการชั้นเรียน: การจัดการชั้นเรียนไม่ดี อาจทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าเรียนรู้
  • การประเมินผล: การให้คะแนนหรือประเมินผลที่ไม่ยุติธรรมอาจทำให้นักเรียนรู้สึกท้อแท้และไม่มีกำลังใจในการเรียน
  • ความคาดหวัง: ความคาดหวังที่สูงเกินไปจากครูอาจทำให้นักเรียนรู้สึกกดดันและเครียด

4. ความเครียด

  • ความกดดันจากการเรียน: การต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆ หรือทำการบ้านเยอะอาจทำให้เด็กเกิดความเครียด
  • ความคาดหวังจากผู้ปกครอง: การที่ผู้ปกครองคาดหวังผลการเรียนสูงเกินไปอาจทำให้เด็กกดดันและเครียด
  • การปรับตัว: เด็กที่ย้ายโรงเรียนใหม่หรือขึ้นชั้นใหม่อาจต้องใช้เวลาปรับตัวกับเพื่อนใหม่ ครูใหม่ และสภาพแวดล้อมใหม่
  • ปัญหาสังคม: การไม่มีเพื่อนหรือการถูกบูลลี่อาจทำให้เด็กเครียดและรู้สึกโดดเดี่ยว
  • กิจกรรมเสริม: การที่เด็กมีภารกิจมากเกินไปนอกเหนือจากการเรียน เช่น กิจกรรมชมรมหรือกีฬา อาจทำให้เด็กไม่มีเวลาพักผ่อนและเครียด
  • การสอบ: การเตรียมตัวสอบและการสอบที่บ่อยครั้งอาจทำให้เด็กเกิดความเครียดและวิตกกังวล

5. สุขภาพ

  • การเจ็บป่วยบ่อย: เด็กบางคนอาจมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้เจ็บป่วยบ่อย เช่น หวัด หรือไข้
  • โรคประจำตัว : เด็กที่มีโรคประจำตัวบางโรค อาจทำให้การร่วมกิจกรรมมีข้อจำกัด ไม่สามารถร่วมกิจกรรมกับเพื่อนได้ทั้งหมด
  • ปัญหาการนอนหลับ: การนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้เด็กเหนื่อยล้า ไม่มีสมาธิในการเรียน และส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
  • การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา: การเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาหรือกิจกรรมภาคสนามอาจทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ เช่น ข้อเท้าแพลงหรือกระดูกหัก
  • สุขภาพจิต: ปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ความวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือความเครียด อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวันของเด็ก

6. สิ่งแวดล้อม

  • ห้องเรียนไม่สะอาด: การที่ห้องเรียนหรือบริเวณโรงเรียนไม่สะอาดอาจทำให้เด็กเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเจ็บป่วย
  • เสียงดังรบกวน: เสียงรบกวนจากภายนอกหรือนักเรียนคนอื่นๆ อาจทำให้เด็กไม่มีสมาธิในการเรียน
  • อุณหภูมิไม่เหมาะสม: ห้องเรียนที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไปอาจทำให้เด็กไม่สบายหรือไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
  • อุปกรณ์การเรียนไม่เพียงพอ: การขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน เช่น หนังสือเรียน สื่อการสอน หรืออุปกรณ์การทดลอง อาจทำให้เด็กไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เครื่องแต่งกาย : การที่นักเรียนบางคนมีชุดนักเรียนหรืออุปกรณ์แต่งกายที่แตกต่างหรือโดดเด่นกว่าคนอื่น อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่เท่าเทียมและการบูลลี่
  • การเข้าถึงทรัพยากร: การที่เด็กไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็น เช่น ห้องสมุด หรือสนามกีฬา อาจทำให้การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะของเด็กถูกจำกัด

แนวทางการจัดการปัญหา วิธีสร้างแรงจูงใจให้ลูกไปโรงเรียน

  • พูดคุยกับลูก: สอบถามและฟังความคิดเห็นของลูกเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์และความรู้สึกของลูก
  • พบปะกับครู: นัดพบกับครูเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่ลูกเผชิญ พยายามหาทางออกที่เหมาะสมร่วมกัน
  • สร้างความเข้าใจ: ช่วยให้ลูกเข้าใจมุมมองของครูและเหตุผลในการกระทำของครู เพื่อให้ลูกสามารถปรับตัวและเรียนรู้จากสถานการณ์
  • สอนการจัดการอารมณ์: สอนลูกให้รู้จักการจัดการอารมณ์และการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง รวมถึงการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์กับครูและเพื่อน
  • สนับสนุนทางอารมณ์: ให้กำลังใจและสนับสนุนลูกในทุกสถานการณ์ เพื่อให้ลูกรู้สึกว่ามีผู้ปกครองอยู่เคียงข้าง
  • หาแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติม: หากปัญหายังไม่สามารถแก้ไขได้ อาจพิจารณาหาผู้เชี่ยวชาญหรือนักจิตวิทยาเด็กเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา
  • ติดตามความคืบหน้า: คอยติดตามและประเมินความคืบหน้าของปัญหาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการช่วยเหลือตามความเหมาะสม
  • โรงเรียนทางเลือก : มองหาโรงเรียนที่เหมาะกับความต้องการของลูก อย่างเช่น King’s InterHigh โรงเรียนออนไลน์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ที่เด็กๆจะเรียนในรูปแบบออนไลน์

King’s InterHigh โรงเรียนออนไลน์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ร่วมมือกับ Vertex Smarter นำเสนอหลักสูตรการศึกษาออนไลน์คุณภาพสูง ที่เด็กๆจะเรียนในรูปแบบออนไลน์ ที่ผู้เรียนสามารถออกแบบการเรียนรู้ได้เอง ทั้งวิชาหลัก วิชาเลือก และกิจกรรมเสริมต่างๆ  ในรูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ได้รับมาตรฐานการศึกษาสากล มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะสำคัญต่างๆ ให้นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งทางเลือกทางการศึกษาที่ดีสำหรับนักเรียนและครอบครัวที่ต้องการการเรียนที่ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตัวของนักเรียน เช่น นักกีฬา , ศิลปิน , ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ , ครอบครัวที่ย้ายถิ่นฐานบ่อยๆ หรือนักเรียนที่ต้องการเรียนในหลักสูตรเฉพาะทางที่อาจไม่มีในโรงเรียนแบบดั้งเดิม

บทสรุป

การจัดการปัญหาที่ลูกเผชิญในโรงเรียนและการสร้างแรงจูงใจให้ลูกไปโรงเรียนอย่างมีความสุขนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้ปกครองและครูผู้สอน อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งจะช่วยให้ลูกมีความสุขกับการเรียนรู้และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต

แชร์บทความนี้

บทความอื่นที่น่าสนใจ

ต่อโท MBA ที่ไหนดี? แนะนำหลักสูตรที่ตอบโจทย์นักธุรกิจยุคใหม่

กำลังหาที่เรียนต่อโท MBA ที่ไหนดี? ที่จบไว เจาะลึกหลักสูตร MBA ออนไลน์และออฟไลน์ที่เหมาะกับนักธุรกิจยุคใหม่ พร้อมแนะนำ IU University มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
Read More

เมื่อข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ Data Science เรียนที่ไหนดี? จบไว

เรียน Data Science เรียนที่ไหนดี? กับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เรียนที่ IU พร้อมเรียนออนไลน์ เรียนจากที่ไหนก็ได้ จบไวภายใน 1 ปี และเติบโตในสายงานอย่างมั่นคง!
Read More

เรียนต่อ ป.โท ที่ไหนดี? แนะนำ 5 หลักสูตรปริญญาโทออนไลน์

กำลังมองหาเรียนต่อป.โทออนไลน์ที่ไหนดี? รวมหลักสูตรป.โทออนไลน์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทยและต่างประเทศ พร้อมแนะนำป.โทออนไลน์ราคาถูกจากมหาวิทยาลัย IU เยอรมนี
Read More

เรียนปริญญาโท จบนอก vs จบไทย ต่างกันยังไง?

เปรียบเทียบการเรียนปริญญาโท จบนอก vs จบไทย แนะนำเรียนโทออนไลน์ที่ไหนดี พร้อมแนะนำ International University of Applied Sciences (IU) ที่มี Vertexsmarter เป็นพาร์ทเนอร์ในไทย
Read More

อยากทำธุรกิจ Wellness เรียน ป.โท ที่ไหนดี

สำรวจการเติบโตของธุรกิจ Wellness และแผนธุรกิจ Wellness ที่ประสบความสำเร็จ เรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับสาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาธุรกิจสุขภาพ เริ่ม เรียน ป.โท ที่ไหนดี
Read More

เทคนิค P-S-Y-C-H-O เคล็ดลับการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ

P-S-Y-C-H-O เทคนิค การทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการประยุกต์ใช้ในการเรียนปริญญาโท เพื่อเพิ่มความไว้วางใจและการร่วมมือในทีมงานได้เป็นอย่างดี…
Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save